4 วัน 3 คืน ท่องใจไปตามฝัน สมบุกสมบัน บนเส้นทางสายลำปาง - ลำพูน

โดย... ชัยพร อมรมุณีพงศ์
เมื่อกลางเดือนธันวาคมปีที่แล้วผมกับเพื่อนๆทั้ง 6 คน ได้ไปเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง ซึ่งพรั่งพร้อมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวก เหมาะกับนักเดินทางมือใหม่อย่างพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกแจ้ซ้อนอันเลืองชื่อ ที่เปิดรับความท้าทายแก่นักท่องเที่ยวให้ไต่บันไดครบทั้ง 6 ชั้น เพื่อชมบรรยากาศรอบน้ำตกให้สุขอุรา นอกจากนั้นเส้นทางไปน้ำตกแม่เปียกที่พวกเราเดินทางไปในวันที่ 2 จะผ่านความร่มรื่นย์ของป่าไม้ที่สมบูรณ์ยากจะหาได้ง่ายในป่าเมืองไทย ปัจจุบัน ตลอดการเดินทางยังถูกขับกล่อมด้วยเสียงน้ำจากลำห้วยใสๆที่ไหลมาจากต้นน้ำตก ประกอบกับเสียงการต้อนรับอย่างไมตรีมาเป็นระยะๆจากนกนานาชนิด ก่อนถึงน้ำตกแม่เปียกจะพบน้ำตกวังฮุ้น น้ำตกเล็กกลางป่าใหญ่ ซึ่งสร้างความสนุกสนานให้กับพวกเราอย่างถึงที่สุด เพราะนอกจากจะได้คลายความร้อนจากการเดินป่ากว่า 3 กิโลเมตรแล้ว การได้เล่นน้ำในแอ่งน้ำส่วนตัวพร้อมด้วยทรายนุ่มๆแล้วละก็ ความเหน็ดเหนื่อยทั้งหลายก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยละครับ
สุด เส้นทางก็จะพบกับน้ำตกแม่เปียกที่ต้องแลกด้วยหยาดเหงื่อท่วมตัว แต่เมื่อได้ยลโฉมน้ำตกที่ลาดเทมาตามหน้าผาสูง เพียงแค่นี้ก็คุ้มค่าสำหรับการดั้งด้นเดินทางมาแล้วครับ ตกค่ำพวกเราก็ใช้บริการนวดแผนไทย ช่วยคลายความเมื่อยล้าจากการเดินป่า ขอการันตีว่า “ป้าเค้านวดดีมากครับ” เนื่องด้วยการนวดที่นุ่มนวล จนทำให้พวกเราเคลิ้มหลับไปเลย หลังจากนั้นก็ตบท้ายด้วยการลงแช่น้ำพุร้อน ซึ่งน้ำช่างอุ่นสบายเข้ากับสภาพอากาศที่หนาวเย็นซะจริงๆ ช่วยให้คืนนั้นพวกเรานอนหลับสบายพร้อมที่จะตื่นแต่เช้าตรู่มาร่วมกันเก็บภาพ ความประทับใจรอบบ่อน้ำพุร้อนที่มีไอหมอกประกอบฉากหลังเสมือนอยู่ท่ามกลาง สรวงสวรรค์อันน่ารื่นรมย์เป็นที่สุด
จาก นั้นพวกเราก็เปลี่ยนบรรยากาศการท่องเที่ยวด้วยการนั่งรถไฟไปผจญภัยที่อุทยาน แห่งชาติดอยขุนตาล เขตติดต่อจังหวัดลำปาง-ลำพูน ก่อนถึงปลายทาง ได้ผ่านอุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทยและจอดเทียบชานชาลาที่อยู่ท่าม กลางขุนเขาและป่าดง ฉุกให้คิดถึงการเดินทางไปฮอกวอตของหนังเรื่องแฮร์รี่พอตเตอร์ขึ้นมาทันที จากนั้นพวกเราก็แบกเป้ขึ้นเขาไปที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลเพียง 2 กิโลเมตร แต่ด้วยความสูงชันจึงได้สร้างความเหน็ดเหนื่อยถึงกับต้องหยุดพักเกือบทุก นาที
เมื่อ ถึงจุดหมายก็ต้องนั่งรถกระบะไปอีก 2 กิโลเมตร เพื่อที่จะไปพักแรมกันที่บ้านบังกะโลรถไฟบนยอด ย.1 ตกเย็นก็เดินขึ้นไปบนยอด ย.2 ซึ่งห่างจากที่พัก 800 เมตร ชมพระอาทิตย์ตกที่ลุ้นระทึกเป็นยิ่งนัก ก่อนนอนพวกเราก็เทกายลงบนระเบียงหลังบ้าน ชมจันทร์และดวงดาวอันสุกสกาวเต็มท้องฟ้า เสมือนมีคนนับล้านคอยส่งสายตาหวานๆให้ ช่วยสร้างรอยยิ้มให้เสมอยามที่จ้องมอง เช้าวันสุดท้ายพวกเราปิดท้ายทริปด้วยการตื่นแต่เช้ามาชมทะเลหมอกที่ปกคลุม ทั่วท้องทุ่งภูเขาสุดลูกหูลูกตา พร้อมด้วยแสงของเช้าวันใหม่บนทิวทัศน์ที่มองเห็นได้ทั้งจังหวัดลำปางและ ลำพูน และก็ช่วยกันทำอาหารอย่างสุดฝีมือที่รสชาติอาจจะดูแปลกๆ นิดหน่อยแต่ก็สร้างความประทับใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะจากลาพวกเราก็เก็บภาพความประทับใจรอบอุทยาน พร้อมกับขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นสัตว์ป่า ท้องนภา สายลม สายน้ำ สายหมอก และองค์ประกอบอื่นๆ ที่ธรรมชาติรังสรรค์ให้เราได้สัมผัสความงดงามและความสุขล้นเปี่ยมเช่นนี้ และถูกบันทึกเข้าไปในจิตใจอย่างไม่รู้ตัวกลายเป็นความทรงจำสำคัญที่ยากจะลืม เลือนจริงๆ

http://thai.tourismthailand.org/interesting-article/content-595-1.html